ประเด็นร้อน
'บุญสร้าง'ตีกรอบปฏิรูปตร. ประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า
โดย ACT โพสเมื่อ Jul 07,2017
- - สำนักข่าว กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 7/07/60 - -
"บุญสร้าง"หารือ"วิษณุ"วางกรอบการทำงานคณะ กรรมการปฏิรูปตำรวจ เล็งชี้แจงแนวทางการทำงานพร้อมประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า "มีชัย" หวังให้ตำรวจเติบโตตามผลงาน-ไม่ต้องห่วงการวิ่งเต้น ขณะที่ "สังศิต" รับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นตำรวจ กรณีขึ้นเวที "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" ห่วงเป็นบรรทัดฐานให้ประชาชนไม่กล้าแสดงความเห็น จากกรณีนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ 36 คน โดยมีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน
วานนี้ (6ก.ค.) พล.อ.บุญสร้าง ได้เข้าหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อพูดคุยถึงบุคคลที่มาทำหน้าที่คณะกรรมการและเลขานุการ รวมถึงการกำหนดสถานที่ วันประชุม และเบี้ยประชุม รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดย พล.อ.บุญสร้าง ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนและแนวทางการปฏิรูปตำรวจ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอเวลาอีก 1 สัปดาห์จะให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่าการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ จะเริ่มประชุมนัดแรกในสัปดาห์หน้า ที่รัฐสภา โดยในเบื้องต้นจะมีการประชุมสัปดาห์ละ 1 วัน และในการประชุมนัดแรกจะเป็นการทำความเข้าใจกรอบการทำงานร่วมกัน ตามที่ได้มีการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รวมทั้งจะมีการตั้งรองประธาน และผู้ทำหน้าที่เลขานุการด้วย
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปตำรวจ ที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงานว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมีจุดมุ่งหมายให้ตำรวจทำหน้าที่ของเขา สามารถเติบโตไปตามผลการทำงานไม่ใช่การวิ่งเต้น เชื่อว่าตำรวจทำงานดี แต่อุปสรรคคือต้องเหลือบตาดูผู้มีอิทธิพลว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้เกิดผล
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ว่าไม่ได้ติดใจอะไรที่ประธานต้องเป็นตำรวจ คงต้องให้โอกาส พล.อ.บุญสร้างในการทำงาน แต่ต้องยอมรับว่าองค์ประกอบของกรรมการมีข้าราชการตำรวจค่อนข้างเยอะ ทำให้หลายคนวิตก เพราะเมื่อเข้าไปแล้วจะมี 2 อย่างคือ 1.ปกป้องสภาพที่เป็นอยู่ และ 2.เสนออะไรซึ่งกลายเป็นการไปเพิ่มอำนาจ รวมศูนย์อำนาจขึ้นมาก็จะไม่สอดคล้องกับการปฏิรูป
ทั้งนี้ อยากเห็นคณะกรรมการมีองค์ประกอบที่ไม่มีตำรวจเยอะ แต่ควรเชิญตำรวจที่คิดว่ามีประสบการณ์ ไปให้ข้อมูลมากกว่า ส่วนในเรื่องของโครงสร้างและนโยบายจะต้องมีความชัดเจน
ขณะเดียวกัน นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมทนายความเดินทางรับทราบข้อกล่าวต่อพนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี กรณีถูกแจ้งข้อกล่าวร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการเป็นวิทยากรในงานเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อเรื่อง "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" ที่จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยกองบังคับคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งความไว้ที่สน.ลุมพินี ท้องที่เกิดเหตุ
โดยนายสังศิต เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ศิริพงษ์ ภูมิเหล่าแจ้ง รองผกก.(สอบสวน) ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ มีพ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผบก.จเรตำรวจแห่งชาติ นายถาวร เสนเนียม และนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำกปปส.ร่วมเดินทางมาด้วย
นายสังศิต กล่าวว่าตนเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ขอปฏิเสธข้อหาดังกล่าว เนื่องจากวันนั้นเป็นการพูดทางวิชาการ อีกทั้งคำพูดที่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทนั้น เป็นการพูดไปตามหัวข้อในงานเพื่อเป็นแนวทางการปฏิรูปตำรวจ ที่ผ่านมาคำตัดสินของศาลฎีกา มีคำพิพากษาว่าบุคคลจะดูหมิ่นองค์กรไม่ได้ และที่ตนไปกล่าวในงานนั้น ก็ไม่ได้หมิ่นประมาทตำรวจเป็นรายบุคคล ซึ่งการที่ตนเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ถือเป็นเรื่องดี เพราะช่วงนี้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งประชาชนก็จะแสดงความคิดเห็นเรื่องตำรวจได้ และจะดูว่าจะถูกฟ้องหมิ่นประมาทอีกหรือไม่ หากมีใครแสดงความเห็นในเรื่องการปฏิรูปนี้
เบื้องต้นตำรวจสอบปากคำนายสังศิต แจ้งข้อกล่าวหา พิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากนายสังศิต มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและไม่มีพฤติกรรมหลบหนี อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะใช้เวลา 15 วันในการสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งอัยการพิจารณาว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ต่อไป